ด่วน! องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งใหญ่ หลังพบผู้ป่วย อหิวาตกโรค เพิ่มขึ้นทั่วโลก

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2567 นางมาร์กาเร็ต แฮร์ริส โฆษกองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การระบาดของโรคอหิวาตกโรคครั้งนี้เป็น “ภาวะฉุกเฉินครั้งใหญ่” ที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน โดยเน้นการรณรงค์ฉีดวัคซีนและการปรับปรุงระบบน้ำและสุขอนามัยทั่วโลก

แม้จะมีความก้าวหน้าในการควบคุมโรคอหิวาตกโรคมาอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ แต่ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยกลับเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง แม้แต่ในประเทศที่ไม่พบการระบาดของโรคนี้มานานหลายปี รายงานจากปี 2022 พบว่า มี 44 ประเทศที่รายงานผู้ป่วยโรคอหิวาตกโรค เพิ่มขึ้นจาก 35 ประเทศในปี 2021 หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 25% แนวโน้มดังกล่าวยังคงเพิ่มสูงขึ้นในปี 2023 โดยมีอัตราการเสียชีวิตพุ่งสูงสุดในรอบกว่าทศวรรษ

แฮร์ริสเปิดเผยกับสำนักข่าว “ซีจีทีเอ็น” ของจีนว่า การกลับมาระบาดของโรคนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากระบบน้ำและสุขอนามัยที่ไม่เพียงพอในหลายประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและทรัพยากรที่จำกัด เมื่อเดือนมกราคม 2566 องค์การอนามัยโลกได้จัดให้การระบาดของโรคอหิวาตกโรคทั่วโลก ซึ่งเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2564 เป็น “ภาวะฉุกเฉินระดับ 3” ซึ่งเป็นระดับสูงสุด แม้ว่าแคมเปญฉีดวัคซีนจะช่วยควบคุมการแพร่ระบาดได้ในบางส่วน แต่ยังไม่ครอบคลุมเพียงพอ แฮร์ริสเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อให้มั่นใจว่ามีระบบน้ำและสุขาภิบาลที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการหยุดยั้งการแพร่ระบาด ทั้งนี้ โรคอหิวาตกโรคเกิดจากแบคทีเรีย ไวบริโอ โคเลอแร (Vibrio cholerae) ซึ่งแพร่กระจายผ่านอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการบริโภคอาหารที่สะอาดและสุขอนามัยที่เหมาะสม แม้ว่าจะมีความเสี่ยงถึงแก่ชีวิตหากไม่ได้รับการรักษา แต่การรักษาอย่างทันท่วงทีสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ