ผญบ.ตัวจริง ไม่รับเงิน ส.อบจ. หอบหลักฐาน แจ้ง กกต.

วันที่ 26 ม.ค. 68 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (สนง.กกต.จ.) นครราชสีมา นางสาววิทยา ศรีสุวรรณเดช อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้านพวงพยอม หมู่ 7 ต.ขามทะเลสอ อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา พร้อม นายจิน ปทุมมานนท์ อายุ 55 ปี ผู้เป็นสามี

ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียน กรณีมีผู้สนับสนุนผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นครราชสีมา เขต อ.ขามทะเลสอ กระทำการซื้อเสียง โดยมีพนักงานสืบสวนและไต่สวน สนง.กกต.จ.นครราชสีมา รับเรื่องและสอบปากคำเบื้องต้น

นายจิน เปิดเผยว่า ลำดับเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 67 หลังทราบเบอร์ผู้สมัคร นางสาววิทยา ภรรยา ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานที่ร้านกาแฟ ตั้งอยู่ภายในบริษัทดังแห่งหนึ่ง อ.ขามทะเลสอ เมื่อเข้าไปในงาน พบผู้นำชุมชนกว่า 50 คน และทราบเป็นการจัดกิจกรรมเปิดตัวผู้สมัคร ส.อบจ. เขต อ.ขามทะเลสอ โดยมี ผู้บริหารบริษัทดังกล่าว ระบุมีความรักและผูกพันผู้สมัคร ส.อบจ. จึงประกาศตัวเป็นผู้สนับสนุนในทุกๆ ด้าน เพื่อให้เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง

อีก 3 วันต่อมา ได้มีผู้นำชุมชนนำซองขาวด้านในบรรจุธนบัตรฉบับละพันบาท รวมเป็นเงิน 3,000 บาท มามอบให้ และแจงเหตุผลเป็นเงินที่ให้ความร่วมมือในการไปร่วมประชุม ภรรยาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เกรงเป็นการวางตัวไม่เป็นกลางและผิดกฎหมาย จึงเดินทางมาที่ สภ.ขามทะเลสอ เพื่อนำเงินมาคืนและขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับ ร.ต.อ.จักริน สิทธิปรุ รองสารวัตรสอบสวน เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

“เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี การเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สิงห์ติดอยู่บนบ่าต้องวางตัวเป็นกลาง ในทุกๆ เรื่อง ผู้นำชุมชนต้องความภูมิใจสามารถเป็นที่พึ่งพาของชาวบ้านได้ ขณะนี้มีผู้ที่รู้จักมักคุ้นจำนวนมาก แสดงความห่วงใยในความปลอดภัยของครอบครัว คนเราเกิดมามีความตายเป็นเรื่องแน่นอนที่สุด ไม่มีใครหนีพ้น แต่ชีวิตที่เหลืออยู่ต้องทำประโยชน์ให้แผ่นดินเกิดให้ได้มากที่สุด” นายจิน สามี ผู้ใหญ่บ้าน กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ม.ค ที่ผ่านมา ผู้บริหารบริษัทดังกล่าว คู่กรณี พร้อมที่ปรึกษากฎหมายได้เดินทางเข้าแจ้งความ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ตังอำนวย ผกก.สภ.ขามทะเลสอ ประสงค์ให้ดำเนินคดีกับ นางสาววิทยา ผู้ใหญ่บ้าน บ้านพวงพยอม ใน 4 ข้อหา

ประกอบด้วยแจ้งความเท็จ หมิ่นประมาทใส่ความบุคคลอื่นใดต่อบุคคลที่สาม หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 อ้างผู้มาร่วมกิจกรรมในวันนั้น สามารถเป็นพยานยืนยันเป็นการกล่าวหา ใส่ร้ายป้ายสี และสร้างความเสื่อมเสียแก่ตน