เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2568 จากกรณี อดีตแม่ชี ออกมาเปิดเผยแชทลับพร้อมคลิปเสียง พระพล เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร โดยกล่าวหาว่า พระพล มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตนเอง ตั้งแต่เดือน เม.ย.2558 ที่วัด ซึ่งตอนนั้นตนเองเป็นแม่ชี พร้อมทั้งมีคลิปเสียง พระพล ให้คำมั่นสัญญาว่า ถ้าอยู่ช่วยกันสร้างเจดีย์จนเสร็จ จะสึกออกไปแต่งงาน และยังมีหลักฐานเป็นแชทด้วย จนนำมาสู่การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อออนไลน์เสนอข่าว พระพล มีพฤติกรรมไม่สมควรแก่สมณวิสัย นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยหลังจากได้มีการตรวจสอบพระพลได้ยอมรับว่าคลิเสียงและแชทเป็นของตนเองทำให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีมติ ดังนี้
1.กรณีที่ พระพล ยอมรับว่ามีการพูดจาเกี้ยวพาราสีกับฝ่ายหญิงเชิงชู้สาว มีความผิดตามพระธรรมวินัย เป็นครุกาบัติ อาบัติสังฆาทิเสส เห็นควรให้มีการลงโทษตามพระธรรมวินัย คือ เข้าปริวาสกรรม
2.เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลพยานหลักฐานเพิ่มเติม จึงเห็นควรให้ พระพล ออกจากวัดภายใน 7 วัน นับตั้งแต่รับทราบคำวินิจฉัย
ด้าน พระครูวินัยธรอนุชา อธิปัญโญ หรือ พระพล อดีตเจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ เปิดเผยว่าตนเองพร้อมที่จะออกจากวัดหากมีคำสั่งก็น้อมรับ เนื่องจาก ยอมรับ ว่ามีการพูดหยอกล้อเย้าแหย่เรื่องชู้สาวจริง แต่ทำไปเพื่อให้แม่ชีคนนี้ เลิกหาเรื่องหาราว ไม่เคยทำอาบัติปาราชิกด้วยการเอาอวัยวะสอดใส่แต่อย่างใด ซึ่งมติคณะสงฆ์ก็บอกว่าเป็นเพียงอาบัติสังฆาทิเสส และโลกวัชชะเท่านั้น ถ้าหากมีหนังสือมาเป็นลายลักษณ์อักษรก็จะออกจากวัด เพื่อไปการเข้าปริวาสกรรมตามหลักพระธรรมวินัยต่อไป และจะยุตติการออกมาพูดและตอบโต้ปล่อยให้ความจริงและเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ โดยยืนยันว่าตลอด 17 พรรษาที่บวช ได้ปฏิบัติตัวตามหลักพระธรรมวินัยและหวังสืบทอดพระพุทธศาสนาจนกว่าชีวิตจะหาไหม้