เมื่อวันที่ 18 มกราคม น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ เป็นหนึ่ง มูลนิธิเป็นหนึ่ง เดินทางไปที่ สภ.หนองสองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อพา น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองสองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อเอาผิดกับพระสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง
หลัง น.ส.เอ ร้องเรียนผ่านมูลนิธิว่าถูกพระที่เป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ข่มขืนกระทำชำเราเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ระหว่างมาปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์
โดย น.ส.เอ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้ฟังคลิปธรรมะในช่องยูทูบเรื่องฆราวาสบรรลุธรรม จึงศรัทธา โดยในคลิปจะเชิญชวนให้มาปฏิบัติธรรมที่นี่ ไม่มีค่าใช้จ่าย ก็หวังจะบรรลุธรรม ซึ่งช่วงนี้เดินทางกลับไทยมาพร้อมสามีต่างชาติที่ได้หยุดพัก 2 เดือน จึงตัดสินใจมาปฏิบัติธรรมที่บุรีรัมย์ โดยสามีพักผ่อนอยู่ที่พัทยาและเข้าพักที่รีสอร์ต เมื่อวันที่ 13 มกราคม โดยมีพระเจ้าสำนักโทรศัพท์และทักไลน์มาหาตลอด
น.ส.เอ เล่าว่า วันที่ 15 มกราคม ตนเข้าปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์คืนแรก กลางดึกพระเจ้าสำนักเข้ามาที่ที่ตนพักอยู่ ซึ่งเป็นซุ้ม มาลวนลาม ตอนนั้นยอมรับว่ากลัวแต่ไม่กล้าทำอะไรเพราะเกรงว่าเขาจะมีอาวุธ แล้วกระทำการข่มขืนตนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง
ตอนเช้าตนได้ไปปรึกษาแม่ชีที่อยู่ในสำนักสงฆ์ว่าเหตุการณ์แบบนี้ควรจะทำอย่างไร วันเดียวกัน พระเจ้าสำนักมาพูดคุยเหมือนจะไม่ให้ตนกลับไป บอกว่า ”ไม่ต้องไปนะเพื่อความรัก” จึงใช้โทรศัพท์อัดคลิปไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.เอ เล่าหลังแจ้งความว่า หลังจากนั้นพระเจ้าสำนักได้เอาเงินให้ตน 8,000 บาท ส่วนตัวไม่อยากจะให้พระกระทำแบบนี้กับใครอีกจึงจะเอาเรื่องถึงที่สุด
ทั้งนี้มีรายงานว่า พระเจ้าสำนักดังกล่าวมักเชิญชวนคนมาปฏิบัติธรรม โดยก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับเหยื่อจนทราบว่าสามีของเหยื่อเป็นชาวต่างชาติ สูงอายุ และป่วยเป็นมะเร็ง เลยพยายามเข้ามาตีสนิท หวังครอบครองร่างกายและทรัพย์สินของสามีเหยื่อ