เมื่อวันที่ 17 มกราคม นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ผลจากการที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามราคาทองโลก ส่งผลให้กำลังซื้อในภาพรวมของปี 2567 ปรับตัวลดลงประมาณ 30-40% เมื่อเทียบกับปี 2566 ส่วนปี 2568 ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ เนื่องจากราคายังคงผันผวนตามสถานการณ์โลก รวมถึงการมาของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนใหม่ที่จะมีการประกาศนโยบายอย่างเป็นทางการวันที่ 20 มกราคมนี้ โดยมีแนวโน้มที่นโยบายจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา จากการขึ้นภาษี ส่งผลต่อราคาสินค้า เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งราคาทองคำน่าจะมีการปรับขึ้นเช่นกัน อาจจะได้เห็นแตะ 3,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยคาดว่าไตรมาส 2 ปี 2568 นี้ อาจจะได้เห็นราคาทองคำแตะที่ 45,000 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเมื่อราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้น มีผลต่อการซื้อขายทองคำในประเทศไทยไม่สดใส
ปีนี้ไม่เหมือนเดิม!! ร้านทองเริ่มปิดตัว ซื้อขายไม่คึกคักเหมือนเคย
“ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาการซื้อขายทองคำดีขึ้นเล็กน้อย เพราะช่วงนั้นราคาถูกลง แต่ตอนนี้กลับมาแพงขึ้นอีกกว่า 1,000 บาทแล้ว ทำให้กำลังซื้อเริ่มชะลอตัวลงไปอีก คาดว่าจะยาวถึงตรุษจีน เพราะเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี คนประหยัดมากขึ้น ทำให้กำลังซื้อซึมๆ จากเมื่อก่อนคนจะซื้อเพื่อแจกเป็นอั่งเปา แต่ช่วงระยะหลังๆ เริ่มมีน้อยลงแล้ว จึงคาดว่าตรุษจีนปี 2568 นี้การซื้อขายทองอาจจะไม่คึกคักเหมือนเมื่อก่อน” นายจิตติกล่าว นายจิตติกล่าวว่า สถานการณ์ซื้อขายทองคำในประเทศขณะนี้ ร้านทองตู้แดง หลังราคาทองปรับตัวสูงขึ้น คนชะลอการซื้อ ทำให้การซื้อขายค่อนข้างเหงาๆ และมีการปิดตัวไปบ้าง แต่ไม่มาก โดยผู้ค้าทองคำเองก็ต้องปรับตัวด้วยเช่นกันให้เข้ากับสถานการณ์ตลาด และกำลังซื้อ เช่น ปรับรูปแบบให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้ราคาจูงใจคนซื้อมากขึ้น ล่าสุดตนได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีขนาดเล็กลง ในรูปแบบทองคำแท่งจิ๋ว ขนาดน้ำหนัก 0.3 กรัม จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 1,000 บาทต้นๆ ซึ่งการตอบรับค่อนข้างดี ซื้อง่ายขายคล่อง คนซื้อเพื่อเก็บออมและเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลต่างๆ